บทที่ 1 เหมือนจะเคย...(30%)

บทนำ

............

กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง?

บูรณิมาเคยได้ยินได้ฟังคนแก่คนเฒ่าเปรยว่าสมัยนี้กรรมชักจะติดจรวด ซึ่งเธอเองก็ค่อนข้างเห็นด้วย แต่คิดว่ากรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมคืนสนอง ทว่าในกรณีแม่ของเธอซึ่งลอบฆาตกรรมนางแบบดังอย่างนีรา กรรมนั้นกลับเหมือนว่าไม่ได้ตามติดไปกับท่านซึ่งตัดช่องน้อยแต่พอตัวด้วยการกินยาฆ่าตัวตายไปพร้อมกับพ่อของเธอ ที่ล้มละลาย ติดการพนัน มีหนี้สินล้นพ้นตัว แต่กรรมนั้นกลับมาตกที่ลูกอย่างเธอ

ทันทีที่ตำรวจยืนยันแน่ชัดว่านีราตายเพราะถูกฆาตกรรมโดยน้ำมือของแม่เธอซึ่งเป็นหัวหน้าพยาบาลประจำวอร์ด มิหนำซ้ำแม่ของเธอดันชิงฆ่าตัวตายหนีความผิด สามีของนีราก็บุกไปที่บ้าน เขาจับเธอมาด้วย เขาทำเหมือนเธอเป็นสิ่งของอะไรสักอย่างที่นึกอยากจะหยิบฉวยติดมือก็ทำอย่างไร้ซึ่งความปรานี ไม่แยแสเลยสักนิดว่าคนที่เพิ่งผ่านพ้นงานศพของบุพการีจะรู้สึกเศร้าโศกามากเพียงใด

จากวันนั้นจนถึงวันนี้บูรณิมาก็กลายเป็นเสมือนทาสของจักรพรรดิ มหาฤทธิไกรฤกษ์ ตั้งแต่เขาจับตัวมา เธอก็ตกเป็นสมบัติของเขาไปโดยปริยาย ไม่มีทางหนีหายหลบลี้หนีหน้า แถมยังต้องทำตามบัญชาของคนอารมณ์ร้ายที่เพิ่งเสียเมียไปแบบไม่ทันตั้งตัว เขาหอบความคั่งแค้นทั้งหมดมาลงที่เธอ บังคับให้เธอรับผลของการกระทำที่ตัวเองไม่ได้ก่อ แม้ว่าเธอจะพยายามต่อต้าน คัดค้าน และหาทางขัดขืนยังไงก็ไม่เป็นผล ที่สุดก็ต้องยอมจำทนตกเป็นทาสรองรับอารมณ์ไปพร้อมกับการดูแลลูกของเขา

“ฮึก! คุณมันคนไร้หัวใจ ฉันเกลียดคุณ ฉันเกลียดคุณ…ได้ยินไหม…”

บูรณิมาสะอื้นฮัก น้ำตาไหลรินเป็นทางอย่างอดสู หากแต่กลับรู้สึกเคว้งคว้างเมื่ออยู่ๆ คนใจร้ายก็ถอดถอนความร้อนผ่าวใหญ่ล่ำออกไปเสียดื้อๆ วินาทีถัดมาเขาก็ผลักร่างเย้ายวนลงไปนอนราบกับเตียง แล้วโถมเข้าใส่อย่างไม่ปรานีปราศรัย แหงนหน้าคำรามกระหึ่มอย่างซ่านสะใจกับการรัดรึงจนแทบแตกพ่าย จากนั้นก็ก้มลงมาแสยะยิ้มร้าย

“อา…รสชาติของความเกลียดมันช่างเด็ดจริงๆ เลยเบบี๋ เด็ดจนฉันอยากขย่มเธอให้ขาดใจกันไปข้าง”

ขาดคำคนป่าเถื่อนก็อัดดันความอลังการเข้าหาอย่างดุดัน ดิบเถื่อน หยาบคาย และบ้าคลั่ง จนแทบหัวใจวาย โดยไม่นำพาการดิ้นรนขัดขืนแต่อย่างใด

“ถ้าแค้นนัก! ก็ฆ่าฉันเสียเถอะ!”

บูรณิมาตะโกนใส่หน้าอย่างเหลืออด เมื่อแก่นกายชายเริ่มเคลื่อนเข้าหาอีกครั้ง การเติมเต็มที่มาพร้อมกับความเสียดเสียว ทำให้เธอกัดริมฝีปากกลั้นเสียงครางจนแทบห้อเลือด

“ถ้าเธอตาย เรื่องนี้ก็หมดสนุกน่ะซี้…”

“คนถ่อย!”

“ชมกันบ่อยขนาดนี้ คงได้สลบคาเตียง”

คนหัวใจทมิฬแสยะยิ้มร้าย

“สารเลว!”

“แล้วชอบไหมจ๊ะ ที่มีผัวสารเลวแบบนี้”

“ไปลงนรกซะ!”

“เอากับเธออยู่ขนาดนี้ ไม่ลงนรกหรอกเบบี๋ มีแต่จะขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ด” เขาว่าพลางเสือกความกร้าวแกร่งเข้าสู่สัดส่วนเอิบอาบอย่างเชื่องช้าทว่าเสียวสุดใจ

“ถะ…ถ้าคุณไม่หยุด ฉันจะกลั้นใจตาย”

“ห้ามคิดแม้แต่จะทำร้ายตัวเอง ชีวิตเธอเป็นของฉัน จะเป็นหรือตายฉันเท่านั้นที่เป็นคนกำหนด ฉะนั้นตราบใดที่ฉันยังใช้งานร่างกายเธอไม่สาสม อย่าได้คิดทำให้ของของฉันมีตำหนิ”

คนโอหังออกคำสั่งอย่างเผด็จการ

“ชีวิตฉัน…เป็นของฉัน ไม่ใช่ของคุณ”

“ทำไมจะไม่ใช่ คนไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ ไม่มีเงิน ไม่มีงาน ไม่มีบ้าน และไม่มีที่ไป…อย่างเธอ ต้องมีนายและเจ้าชีวิต และฉันจะเป็นนายและเจ้าชีวิตให้เธอเอง”

..........................................

สามปีก่อน

“สนใจเหรอวะ?”

คำถามที่ดังขึ้นทำลายภวังค์ให้อันตรธานไปในชั่วพริบตา จักรพรรดิ มหาฤทธิไกรฤกษ์ อภิมหาเศรษฐีหนุ่มมาดขรึม วัยสามสิบหกปี บุคลิกน่าเกรงขาม หน้าตาหล่อเหลาคมเข้ม นัยน์ตาสีสนิมเย็นชาดุกระด้าง และว่างเปล่าประหนึ่งเวิ้งทะเลที่ยากแก่การคาดเดาอารมณ์ จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากหยักลึกที่เหมือนติดจะเย้ยหยันอยู่เป็นนิจ รูปร่างสูงใหญ่ไหล่กว้างในชุดสูทอาร์มานีสีน้ำเงินเข้ม ค่อยๆ ละสายตาจากใครบางคน ขยับตัวนั่งไขว่ห้างด้วยท่วงท่าสบายๆ แล้วหันไปมองเพื่อนซี้ที่กำลังจ้องมาด้วยสีหน้ายิ้มๆ นัยน์ตามีแววล้อเลียน

“เมื่อกี้มึงว่าไงนะ”

“ฮั่นแน่ แสดงว่าสนใจจริงๆ”

ภูผา เทวาสถาพร หนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาหล่อตี๋สไตล์เกาหลี ที่นั่งในฝั่งตรงข้าม เอ่ยสัพยอกด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ทำให้คิ้วหนาเหนือนัยน์ตาไร้อารมณ์เลิกขึ้นเล็กน้อย

“สนใจอะไร?”

“เอ้า! ก็สาวน้อยคนเมื่อกี้ไง”

“คนไหนวะ?”

คนถูกไล่บี้ยังคงทำหน้านิ่งคงเส้นคงวา

“ก็คนตัวเล็กๆ หุ่นอวบอิ่มปุ๊กปิ๊ก ที่เพิ่งเดินผ่านไปไง”

“นั่นเรียกว่าหุ่นอวบอิ่มเหรอ กูว่าตัวกลมมากกว่า แถมดูท่าว่าจะกินเก่งซะด้วย ไม่งั้นคงไม่ถือของกินพะรุงพะรุง หนำซ้ำยังมีเศษขนมติดตรงแก้มย้อยๆ นั่นอีก ดูยังไงก็เด็กกะโปโลชัดๆ”

“แหม! ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่จดจำรายละเอียดได้ซะแม่นยำเชียวนะมึง แสดงว่าสนใจจริงๆ แต่จะว่าไปก็ไม่แปลกหรอกที่มึงจะสนใจ เด็กอะไรหุ่นเหมือนนางเอกหนังเอวีญี่ปุ่นชะมัด”

พ่อหนุ่มเจ้าสำราญเอ่ยอย่างเพ้อๆ ตามประสาคนชอบมองของสวยๆ งามๆ

“ลืมไปแล้วหรือไง ว่ามึงกำลังจีบคุณเอวาเขาอยู่”

มาเฟียหนุ่มสวนกลับเสียงเรียบ สีหน้านิ่งสนิทและเฉยชา

“เออๆ ไม่ลืมหรอกน่า ผู้หญิงคนอื่นกูก็แค่มองพอเป็นอาหารตา ส่วนเอวาน่ะกูรักจริงหวังแต่งเว้ย ว่าแต่มึงก็อย่าลืมซะล่ะ ว่าตัวเองน่ะมีเมียแล้ว ห้ามมองผู้หญิงคนอื่นเหมือนลืมตัวแบบเมื่อกี้อีกเด็ดขาด”

บทถัดไป